Lamp Lyrics by NA$A is a latest Thai song in the voice of NA. NA$A has created its tune while brand new Lamp song lyrics are also written by NA$A. This is a popular song among the people of United States of America. The song *Lamp* by NA$A is a heartfelt reflection on resilience, hope, and the struggle for a meaningful life. Through vivid imagery of a flickering lamp battling against the wind, it portrays life’s challenges and the relentless pursuit of dreams despite hardships. The lyrics explore themes of perseverance, societal struggles, and self-determination, encouraging listeners to find their path and hold onto hope. It’s a mix of vulnerability and strength, emphasizing the desire to leave a lasting impact and keep moving forward, no matter how dim the light may seem.
Lamp Lyrics
[Verse 1: NA]
ฉันจุดความหวังจากน้ำมันในตะเกียงแก้ว
ในคืนที่ไร้หิ่งห้อยร้อยเสียงออกมาเรียงแจ้ว
วันที่ใช้ชีวิตนอกหน้าต่าง ห่างระเบียงแคบ
ความสงบที่เคยถกเถียงเหลือแค่เพียงแว่ว
ในสังคมแบบผังวนที่เราสู้กันแบบหลังชน
มีคนทำนาบนหลังคน และทิ้งรอยแผลแค่ฝังคม
ความจนคั่นท้องปาก อิสรภาพเหมือนขังกรง
แต่ไม่ว่าเล็กใหญ่ ใบเรือต่างต้อง (??) ลม
ผู้คนที่แฝงพิษกับปริศนาทั้งพันหน้า
ฉันหวังแค่พบมิตรเหมือน (??) เพื่อล้างภาพ
เคยถนอมน้ำจิตและคิดน้ำใจให้ดังว่า
เผื่อเขาจะการุณ เก็บคำว่าคุณมาประจำค่า
วันที่ภาระมันผูกมัดรัดเหมือนล่ามตรวน
ความฝันที่อยากกล่าวตะโกนซ้ำมันก็ยากทวน
ยามเมล็ดเจริญพันธุ์นั้นอาจต้อง (??) รวง
แต่เชื่อทุกดวงใจจ้องมีวันที่กลับไปทาบทรวง
[Chorus: NA]
หวังว่าวันพรุ่งนี้ฉันยังคงมีแรงเดิน
ขายังขยับสู้ศักย์ของแรงจลย์
ความหวังบนแนวทาง ความฝันบนแนวเดิม
บนฟ้าที่แพรวพราวทอแสงประกายลง
ตะเกียงอับแสงเข้าปะทะกับแรงลม
จันทร์ที่เคยเสี้ยวมันต้องเกี้ยวก่อนเคยกลม
ชีวิตไม่เคยวาง มานะไม่เคยปลง
แค่คิดว่าก่อนตายต้องเหลืออะไรให้เชยชม
[Verse 2: APOLLO]
Yo! Ayy กูยังพยายามในทางที่คิดที่หวังสร้าง
มันจะมีสักคนมั้ยที่เข้าใจในฉันบ้าง
กูยังตายไม่ได้เพราะกูยังรอสวรรค์ว่าง
ครอบครัวกูยังไม่สบาย ยังมีคนรอข้างหลังบ้าน
ทำมันจนเสร็จ ช่างแม่งสุดท้ายถ้าหากมันจะไม่สำเร็จ
กูจัดตะเกียงและเติมฝัน ตามทางที่กูต้องเสด็จ
Yeah! แม้ปลายทางที่ริบหรี่อาจทำกูต้องระเห็จ
แต่เชื่อสักวันบนทางที่หวังตัวกูนั้นจะต้องทำมันได้
ตอนเริ่มมันมืดไปแปดด้าน ใครกี่คนที่แปลกบ้าง
จำได้ดี วันที่กูล้มใครช่วยพยุงกูแนบข้าง
Uh! และหากว่ามึงยังไม่เข้าใจนะ กูจะบอกว่า
ชีวิตนี้เป็นของมึง มึงควรจะเลือกทางเดินมึงเองบ้าง
มึงจำไว้วันที่เมื่อพลาด ทุกอย่างที่มีมันลางเลือน
ศรัทธาที่มีมันเคลื่อนคลาด ไม่สักคำเลยการเตือน
บางทีมึงต้องเลือกข้างและบางทีมึงต้องรากเลือด
ฮึดสู้ขึ้น เอาเชือกคาด แล้วเจอกันที่อีกฟาก เพื่อน
[Chorus: NA]
หวังว่าวันพรุ่งนี้ฉันยังคงมีแรงเดิน
ขายังขยับสู้ศักย์ของแรงจลย์
ความหวังบนแนวทาง ความฝันบนแนวเดิม
บนฟ้าที่แพรวพราวทอแสงประกายลง
ตะเกียงอับแสงเข้าปะทะกับแรงลม
จันทร์ที่เคยเสี้ยวมันต้องเกี้ยวก่อนเคยกลม
ชีวิตไม่เคยวาง มานะไม่เคยปลง
แค่คิดว่าก่อนตายต้องเหลืออะไรให้เชยชม
[Verse 3: NA]
ขอความสงบจงปรากฎ แม้ฟ้าและพรประทานจากดาวตก
ในยามที่แดดหาย เหลือเพียงเดือนหาวและดาวหก
แค่พ้นจากความวุ่นวายที่ทรหดมากจนเกินสบถ
ไม่อยากจะเห็นใครต้องแตกสลายกลายเป็นเรือนกระจก
พอเติมใหญ่ก็ต้องดำรงเพื่ออยู่รอด
เข้าใจเพราะความรู้สึกที่ไม่เคยล้างและไม่เคยถูกฟอก
กับบางคน ทั้งชีวิตไม่เคยปีนเขาไปสู่ยอด
แต่เขาไม่เคยปล่อยไฟในมือให้ลงไปต่ำถึงจุดมอด
แสงของฉันถึงริบหรี่แต่ก็ยินดีจะส่งต่อ
เผื่อว่าใครจะกลับประกายในกลุ่มหมอก
อย่าคิดไปเชื่อว่าโชคชะตาจะสุ่มออก
แค่ผ่านคืนนี้ด้วยกันไปลงพนันกับจันทร์ที่สุดขอบ
กอดความอบอุ่นจากแสงตะเกียงเพื่อลบหนาว
และเชื่อในสิ่งที่ดี อย่าให้สีดำมาลบหรือว่าทบขาว
อยู่บนโลกนี้พวกเราทุกคนย่อมไม่พ้นฉาว
แค่รอให้ถึงเช้า ตอนที่ตะวันโผล่มาพ้นผา
[Chorus: NA]
หวังว่าวันพรุ่งนี้ฉันยังคงมีแรงเดิน
ขายังขยับสู้ศักย์ของแรงจลย์
ความหวังบนแนวทาง ความฝันบนแนวเดิม
บนฟ้าที่แพรวพราวทอแสงประกายลง
ตะเกียงอับแสงเข้าปะทะกับแรงลม
จันทร์ที่เคยเสี้ยวมันต้องเกี้ยวก่อนเคยกลม
ชีวิตไม่เคยวาง มานะไม่เคยปลง
แค่คิดว่าก่อนตายต้องเหลืออะไรให้เชยชม
หวังว่าวันพรุ่งนี้ฉันยังคงมีแรงเดิน
ขายังขยับสู้ศักย์ของแรงจลย์
ความหวังบนแนวทาง ความฝันบนแนวเดิม
บนฟ้าที่แพรวพราวทอแสงประกายลง
ตะเกียงอับแสงเข้าปะทะกับแรงลม
จันทร์ที่เคยเสี้ยวมันต้องเกี้ยวก่อนเคยกลม
ชีวิตไม่เคยวาง มานะไม่เคยปลง
แค่คิดว่าก่อนตายต้องเหลืออะไรให้เชยชม
[Verse 4: NA]
ฉันจุดความหวังจากไฟแช็ค ระบายความรู้สึกที่มันระคายแคะ
ดำรงชีวิตบนโลกาที่โตมา ท้องฟ้าที่ลาลับ
อ่อนล้า ทุกข์ โรยรา ลมโชยมาทุกคราที่พาพัด
บ้างอาจมีโลภและโกรธหลง แต่ฉันยังคงต้องการรัก
เคยสิ้นไร้จนถึงไม้ตอก
น้ำตาตกไหล กลิ้งย้ายไปถึงท้ายศอก
เพราะความจริงไม่เหมือนคล้ายบอก
มากกว่าสุขทุกข์ที่วิ่งเข้าไม่ก็ย้ายออก
ในเมื่อความตายมันย่างกรายไม่ห่างจากฟ้ากั้น
หวังให้ยืนยาวแต่ห้วงเวลากลับปรารถนาสั้น
ก้มมองส้นเท้า ถึงวันที่เงาห่างจากขาท่าน
แถลงจบวาจาด้วยกุศลาที่ถลาลั่น
ทุกวินาทีผันใต้ผ่านอีกขั้นของบันได
พร้อมเรื่องราวที่เกี่ยวเก็บทำเจ็บช้ำชวนระกำใจ
ให้ความห่วงและห้วงอาทรพร้อมช่วยนำไป
หากถึงวันหนึ่งวันนั้นเราคงได้พบกันทันใด
[Chorus: NA]
หวังว่าวันพรุ่งนี้ฉันยังคงมีแรงเดิน
ขายังขยับสู้ศักย์ของแรงจลย์
ความหวังบนแนวทาง ความฝันบนแนวเดิม
บนฟ้าที่แพรวพราวทอแสงประกายลง
ตะเกียงอับแสงเข้าปะทะกับแรงลม
จันทร์ที่เคยเสี้ยวมันต้องเกี้ยวก่อนเคยกลม
ชีวิตไม่เคยวาง มานะไม่เคยปลง
แค่คิดว่าก่อนตายต้องเหลืออะไรให้เชยชม
หวังว่าวันพรุ่งนี้ฉันยังคงมีแรงเดิน
ขายังขยับสู้ศักย์ของแรงจลย์
ความหวังบนแนวทาง ความฝันบนแนวเดิม
บนฟ้าที่แพรวพราวทอแสงประกายลง
ตะเกียงอับแสงเข้าปะทะกับแรงลม
จันทร์ที่เคยเสี้ยวมันต้องเกี้ยวก่อนเคยกลม
ชีวิตไม่เคยวาง มานะไม่เคยปลง
แค่คิดว่าก่อนตายต้องเหลืออะไรให้เชยชม
Lamp Lyrics Meaning
[Verse 1]
The first verse delves into the struggle of holding onto hope in a world filled with challenges. The “lamp” symbolizes a fragile light of hope, lit with determination even in dark and quiet nights. The absence of fireflies or joyful sounds represents loneliness and despair. It talks about being confined to a narrow space, both physically and metaphorically, and yearning for a broader perspective or freedom. Society feels like an endless cycle where people exploit one another, leaving behind scars and perpetuating inequality. Poverty and lack of freedom are described as suffocating forces, yet there’s an underlying belief that no matter how big or small the struggle, perseverance and kindness can light a path forward. The verse emphasizes the importance of dreaming, finding genuine connections, and maintaining hope for a better future despite burdens that feel like heavy chains.
[Chorus]
The chorus is a beacon of hope, a plea to keep moving forward despite life’s trials. It conveys a desire to keep walking, fueled by dreams and the belief in brighter possibilities. The imagery of a flickering lamp enduring against strong winds symbolizes the fight to keep hope alive. Even when the moon appears incomplete or distant, the singer believes in its eventual return to fullness, much like their faith in life’s cyclical nature. They’re driven by the thought of leaving something meaningful behind before their journey ends, turning their struggles into something they can be proud of.
[Verse 2]
The second verse shifts to a more personal tone, describing the singer’s journey of perseverance in the face of misunderstanding and skepticism. They grapple with the pressure to succeed, not just for themselves but for their family and loved ones waiting for better days. Despite uncertainty and obstacles, they commit to their path, symbolized by filling and lighting their “lamp” with dreams and ambitions. Even when the end goal feels distant or blurry, they hold onto faith in their ability to succeed one day. The verse reflects on the early days of darkness and confusion, contrasting them with the current clarity earned through hard work. It’s a call to take ownership of one’s life, make choices, and push through setbacks. Though faith and hope might waver, the singer emphasizes that real growth often requires sacrifice and determination, urging listeners to keep fighting and meet them on the other side of struggle.
[Chorus]
Reiterating the themes of resilience and hope, the chorus serves as a reminder to keep striving. It expresses belief in dreams and the power to overcome hardships, emphasizing that persistence is key to weathering life’s storms.
[Verse 3]
This verse deepens the theme of resilience by focusing on finding peace amidst chaos. It acknowledges that life is harsh and often feels overwhelming, but it’s about holding onto the inner light—the “lamp”—even when everything around seems bleak. The singer talks about the strength it takes to survive and adapt, maintaining hope not only for themselves but also for those around them. Even if life’s challenges have dulled others’ spirits, they aim to pass on their light, encouraging others to rediscover their spark. The verse emphasizes the importance of staying grounded and avoiding fatalism. It’s a call to face the unknown together, believing that by supporting each other, they can overcome the darkness. The singer cherishes warmth, positivity, and shared resilience, choosing to focus on the light and push through life’s inevitable difficulties.
[Chorus]
The chorus resonates once again as a heartfelt reminder to keep moving forward. It highlights the strength needed to endure, using the metaphor of a struggling lamp to represent the singer’s unwavering hope and perseverance in the face of hardships.
[Verse 4]
The final verse reflects deeply on the bittersweet nature of life, balancing moments of hope and despair. It captures the exhaustion and struggles of living in a challenging world, where hope feels fleeting, and time seems to pass too quickly. Despite moments of greed, anger, or confusion, the singer longs for love and meaning in life. They reflect on past hardships and tears, understanding that life isn’t as simple or comforting as one might hope. The proximity of death reminds them of life’s brevity, but instead of succumbing to despair, they choose to embrace the journey with faith and resilience. Every step is a climb, with pain and lessons shaping their progress. The singer holds onto kindness and compassion as guiding forces, hoping to leave behind a legacy of love and strength. It’s a powerful reflection on the human experience, emphasizing the importance of moving forward, no matter how difficult the climb.
[Chorus]
The closing repetition of the chorus ties everything together, underscoring the unyielding hope and determination that drive the singer’s journey. It’s a reaffirmation of their belief in the power of persistence, the importance of dreams, and the lasting impact of hope in shaping a meaningful life.
FAQs
Q. Who has sung Lamp song?
A. Lamp song is sung by NA.
Q. Who wrote Lamp lyrics?
A. Lamp lyrics are penned by NA.
Q. Who has given the music of Lamp song?
A. Lamp music is composed and produced by NA.
“This concludes the lyrics of Lamp” by NA. If you like this song please share it with your friends and family in USA. If you find any errors in it, please feel free to submit the correct version via the Contact Us section.